SEO On Page และ SEO Off Page

วิเคราะห์ SEO On Page และ SEO Off Page ในเว็บไซต์คู่แข่ง

ในศึกสงคราม SEO เราจำเป็นต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อที่จะหาวิธีหรือเทคนิคในการทำให้เว็บไซต์ของเรา ไต่ขึ้นไปเป็น Top 1 ในคีย์เวิร์ดที่ต้องการ ยิ่งคำค้นหาที่มีปริมาณคู่แข่งสูง เราก็ยิ่งทำได้ลำบากขึ้น ความเหนื่อยในการทุ่มเทก็ต้องมากขึ้นเป็นเท่าตัว นอกจากเราจะต้องเหนื่อยในการเขียนเนื้อหาให้ถูกใจผู้ใช้งานแล้ว ยังต้องมานั่งลองผิดลองถูกกับการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ถูกใจ Search Engine เสียอีกด้วย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรู้ว่าการทำแบบไหน Search Engine ถึงจะชอบที่สุด ไม่ค่อยมีใครออกมาบอกเรื่องนี้ คนที่ออกมาบอกกล่าว ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักทำ SEO อย่างเราๆนี่แหละ แต่นั่นก็หมายความว่า ข้อมูลที่เขาได้ออกมาบอกกล่าวเพื่อนๆในวงการ SEO เดียวกัน มันมาจากมุมมองของเขาแต่เพียงผู้เดียว ไม่ใช้ข้อเท็จจริงที่ออกจากปากผู้ให้บริการ Search Engine ตราบที่เรายังอยากขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในวงการนี้ สิ่งที่เราทำได้ก็คงเป็นเพียงการที่ต้องรู้จักทดลองให้มากขึ้น เพื่อที่จะนำผลของการทดลองวิธีต่างๆไปทำสถิติ แล้วเลือกมาใช้จริงเฉพาะวิธีทำที่มีผลเชิงบวกต่ออันดับเท่านั้น

จะดีกว่าไหม.. ถ้ารู้ว่าคู่แข่งที่ติดอันดับหน้าแรก เขาทำ SEO วิธีไหนบ้าง

หากเรารู้ว่าคู่แข่งของเราทำอะไรมาก่อนบ้าง เว็บถึงได้มาติดหน้าแรกของผลการค้นหา ย่อมเป็นการประหยัดเวลาไปได้เยอะ เหมือนเรากำลังพยายามสาวไส้หาความลับในธุรกิจของเขาเลยก็ว่าได้ โชคดีที่การทำ SEO นั้น ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันทั้งหมด สำหรับในเรื่องของ SEO On Page เราสามารถดูโครงสร้างของเว็บคู่แข่งได้ง่ายมาก แค่เข้าเว็บเป้าหมายแล้วทำการดู Source Code ว่ามีลูกเล่นอะไรบ้างที่นำมาแสดงผล การปรับแต่งหน้าเว็บ มีการเน้นคีย์เวิร์ดส่วนไหน แล้วหากเข้าดูเว็บเป้าหมายของเราผ่านมือถือ การแสดงผลจะยังคงถูกต้องชัดเจนหรือไม่ ถ้าเรื่องสืบข้อมูลการทำในส่วนของ On Page เราทุกคนทำกันได้ง่าย สำหรับข้อมูล Code โครงสร้างเว็บที่เราเห็นทั้งหมด บอทที่เข้ามาเก็บก็จะเห็นเช่นเดียวกับเรา หากเว็บคู่แข่งมีอันดับดี เราก็เพียงปรับเว็บไซต์ของเราให้ใกล้เคียงกับเว็บไซต์คู่แข่ง

แต่ถ้าเอาตามความเหมาะสม ก็ไม่ต้องไป Copy ทุกอย่างของเขามาทั้งหมด ดูไว้เป็นแนวทางก็พอ แล้วนำมาประยุกต์กับเว็บของเรา อย่างเช่นเว็บเป้าหมายมีการใช้เวิร์ดเพลสเป็นตัวขับเคลื่อน มีการใช้ธีมแพงๆมาลงที่หน้าเว็บ มีเนื้อหายาวเกือบ 2 หน้ากระดาษ A4 ในหน้าแรกของเว็บไซต์ หากเราดูแล้วว่าคู่แข่งทำมาแบบนี้ ถ้าเว็บของเราใช้ CMS อื่นเป็นตัวขับเคลื่อนและหากมันยังดีอยู่ เราไม่จำเป็นต้องไปลบเว็บทำใหม่แล้วใช้เวิร์ดเพลสบวกธีมแพงๆเหมือนกับเว็บคู่แข่ง แค่วิเคราะห์ว่าในการเข้าชมเว็บไซต์ของเรา โครงสร้างมันดูซับซ้อนหรือไม่ ปกติแล้วเว็บที่ติดอันดับหน้าแรกของผลการค้นหา โครงสร้างเว็บจะเป็นแบบเรียบง่ายและรองรับทุกอุปกรณ์การเข้าถึง เราก็เอาจุดนี้มาใช้กับเว็บเราก็พอ ไม่ต้องไปลบเว็บทำใหม่ตามคนอื่นไปซะหมด ผู้ให้บริการ Search Engine อย่าง Google เองก็เคยออกมาพูดในเรื่อง SEO On Page ว่าเว็บที่มีโครงสร้างซับซ้อนจนเกินไป บอทจะเข้าเก็บข้อมูลได้ยาก ผลลัพธ์ในเรื่องของอันดับ SEO จึงไม่ดีเท่าเว็บที่มีโครงสร้างง่ายๆ

ข้อมูลที่ทางกูเกิ้ลออกมาบอกนี้ มีบางคนเห็นต่างกัน บางคนบอกว่า Google ออกมาหลอกให้เราตายใจ เว็บที่มีลูกเล่นเยอะย่อมเป็นการแสดงให้เห็นว่าเว็บเหล่านี้น่าสนใจกว่าเว็บที่มีแต่ความเรียบง่าย เราลองมาพิสูจน์ดูกันเองก็ได้ ลองค้นหาคีย์เวิร์ดสัก 2-3 คำ ยกตัวอย่างสักคีย์เวิร์ดคือ w88 ลองไล่ 10 อันดับแรกที่ติดในคีย์เวิร์ดนี้ดูสิ ดูว่าเว็บที่ติดอันดับมีใส่แฟลชเยอะ หรือแต่งเว็บเทพโครตเทพเลยหรือปล่าว ส่วนใหญ่เกิน 8 ใน 10 จะเป็นเว็บง่ายๆ เหมือน Blog ทั่วไป หรือเป็นแบบเว็บหน้าเดียวเลยก็มี ทั้งๆที่ w88 ถือเป็นคำค้นหาที่มีการแข่งขันสูงอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นคีย์ทำเงินในหมวดการพนัน เราทราบข้อมูลแล้วก็ให้ลดความรู้สึกส่วนตัวลงสักหน่อย แล้วใช้สถิติที่พิสูจน์ได้มาประยุกต์ใช้กับเว็บของเรา เราไม่จำเป็นต้องเก่งเรื่องภาษาเว็บ เอาแค่พอปรับแต่งให้มันดูเรียบง่ายแล้วเป็นมิตรกับผู้ที่เข้ามาใช้งานก็พอ

ส่องกองทัพของคู่แข่งจากการวิเคราะห์ SEO Off Page

มันไม่ง่ายเลยที่เราจะรู้ว่าคู่แข่งทำอะไรในส่วนของ Off Page ทั้งหมด ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีเว็บไซต์ที่ให้บริการวิเคราะห์เว็บในเรื่องของ Off Page อย่างละเอียดมาก แต่ข้อมูลที่แต่ละเว็บมีคือข้อมูลที่ Robot ของเว็บนั้นๆไปเก็บข้อมูลมาได้ ไม่ใช่ Robot ของเว็บค้นหาข้อมูลแต่ละแห่ง อย่างไรก็ตาม มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรให้เข้าดูเลย สำหรับคนที่อยากเข้าส่อง SEO Off Page ในเว็บคู่แข่งของเรา เว็บเครื่องมือวิเคราะห์ยอดนิยมในเวลานี้ คงจะหนีไม่พ้น 2 เว็บดังอย่าง Ahrefs.com และก็ Majestic.com

ทั้ง 2 เว็บนี้เปิดให้บริการคิดแบบรายเดือน แต่ก็สามารถใช้ฟรีได้บางส่วน โดยจะมีลิมิตจำนวนค้นหาแต่ละวันถ้าในส่วนของการใช้ฟรี จุดเด่นที่ทำให้ 2 เว็บไซต์นี้ได้รับความนิยม คงเป็นเพราะ Robot ที่มีจำนวนมากและขยันออกไปเก็บข้อมูลอยู่ทั่วโลกอินเตอร์เน็ต ยิ่งบอทมีเยอะเท่าไหร่ ก็เก็บข้อมูลมาส่งได้มากเท่านั้น ทำให้ฐานข้อมูลประวัติของแต่ละเว็บมีการแสดงผลออกมาได้ละเอียดกว่าเว็บอื่น เช่นเว็บ A มีการทำ Backlinks จริงไปสัก 100 เว็บ บอทของเว็บ Ahrefs อาจจะเก็บข้อมูลมาได้สัก 50-70 เว็บ ส่วน Majestic อาจเก็บมาได้ 40-50 เว็บ แบบนี้เป็นต้น ถึงโดยเฉลี่ยจะไม่สามารถเก็บมาได้ทั้งหมด แต่ก็มากกว่าเว็บที่ให้บริการวิเคราะห์ SEO Off Page เจ้าอื่น ทีนี้ ที่ได้บอกไปก่อนหน้าแล้วว่า บอทที่เก็บข้อมูลมาโชว์เราไม่ใช่บอทของเว็บ Search Engine ดังนั้นข้อมูลที่บอท Search Engine เก็บได้อาจจะต่างกันออกไปอยู่บ้างเล็กน้อย แต่เราไม่จำเป็นต้องไปรู้หมดทุกส่วนก็ได้ เอาแค่วิเคราะห์เว็บคู่แข่งคร่าวๆก็พอ

สำหรับข้อมูลที่จะนำมาแสดงให้เราทราบ จะมีทั้งจำนวน Backlinks ที่บอทเว็บไซต์เหล่านี้เก็บมาได้ มาจากกี่โดเมน ถ้ามองเป็นหมายเลข IP จะมีทั้งหมดกี่ IP ข้อความที่ถูกทำเป็นลิงค์ ประเทศของผู้ใช้ที่เข้าชมมากที่สุด จำนวนการแชร์ของแต่ละ Social ชื่อดัง และอีกมากมายเลย แค่ข้อมูลเหล่านี้มันก็มากพอสำหรับการวิเคราะห์เว็บคู่แข่งเพื่อจะใช้เป็นแนวทางแล้ว จริงๆยังมีเว็บวิเคราะห์ SEO Off Page ที่เจ๋งอีกหลายเว็บมาก ที่อาจไม่ได้รายงานเรื่อง Backlinks อย่างละเอียด แต่จะเน้นการวิเคราะห์ในส่วนอื่นแทน เพื่อนๆก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มจากแหล่งเว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับการทำ SEO หรือ Internet Marketing ทั้งของไทยและต่างประเทศได้ หรือถ้ามีโอกาสก็จะนำมาฝากเพื่อนๆเพิ่มเติมให้อีกในภายหลัง