Pyramid Links

ทำความรู้จักกับพีระมิดลิงค์

หากใครคนไหนเคยได้ยินเรื่องการทำลิงค์เป็นชั้นมาบ้าง อาจจะมีความสงสัยคาใจในหลายข้อเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำไมเราต้องทำลิงค์เป็นชั้น ? ผลดีผลเสียมีอะไรบ้าง ? ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการ SEO ประเทศไหนย่อมต้องรู้จักเรื่องพีระมิดลิงค์เป็นอย่างดี เพราะในอดีตมันเคยเป็นวิธีการทำที่ส่งผลให้การทำอันดับเว็บไซต์ง่ายขึ้นราวกับว่าเราสามารถกำหนดอันดับหนึ่งได้ด้วยมือของเราเอง ถึงแม้ว่าปัจจุบันวิธีการนี้จะใช้ไม่ค่อยได้ผลดีเท่าเมื่อก่อน แต่ก็ควรศึกษาไว้เป็นความรู้ติดตัว เผื่อเราอาจจะพลิกแพลงเกิดการทำวิธีรูปแบบใหม่เกี่ยวกับ SEO ก็เป็นได้

แนวคิดของการทำ Link Pyramid

ช่วงนี้การทำ SEO ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีตที่ผ่านมาก่อนจะมีพวก Social ต่างๆโผล่ขึ้นมาให้เล่น ได้มีนัก SEO หลายคนที่พยายามจะค้นหาวิธีการทำอันดับในรูปแบบใหม่ๆที่สามารถทำอันดับได้ดีกว่าวิธีพื้นฐานทั่วไปที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ทำอันดับ ใครๆก็ย่อมอยากมีวิธีลัดที่จะย่นระยะเวลาลงไป จนในทุกสุดก็เกิดแนวคิดวิธีการทำแบบสุดโต่งขึ้นมานั้นคือ “Link Wheel” มันเป็นการเชื่อมโยงจะแต่ลิงค์ให้ต่อกันเป็นวงจร และ 1 ลิงค์ก็จะใช้ 1 โดเมน เชื่อมวนหากัน จากเว็บ 1 ไปเว็บ 2 และจากเว็บ 2 ไปเว็บ 3 วนไปแบบนี้จนเว็บสุดท้ายจะวนมาจบที่เว็บ 1 เพื่อให้เกิดเป็นวงจรลิงค์ย่อย และในแต่ละโดเมนที่ทำลิงค์เชื่อมหากัน จะมีลิงค์มายังเว็บไซต์ทำเงินของเราด้วย โดยไม่จำกัดว่ารูปแบบของลิงค์จะทำเป็นลิงค์แบบ URL โดยตรงอย่างเช่น หรือจะเป็นการทำผ่าน Text Link ก็ตาม สำคัญที่สุดคือมันต้องเป็น Dofollow ทั้งหมดเพื่อให้บอทไต่ผ่านได้ตลอด แนวคิดนี้มาจากการเกิดมุมมองที่ว่า หากแต่ละ Backlinks ของเว็บไซต์เรา มีการถ่ายโอนค่าคะแนนของแต่ละโดเมนเข้าหากันโดยเป็นในรูปแบบวงจร มันจะช่วยให้การทำอันดับดีขึ้น และในช่วงนั้นมันก็เป็นผลดีจริงๆ มีแค่ 10 โดเมนเอามาทำลิงค์วิวแล้วแต่ละโดเมนโยงลิงค์เข้าหาเว็บไซต์ทำเงิน อันดับจะดีขึ้นอย่างน่าตกใจ

วิธีนี้ก็ถูกเผยแพร่บอกต่อในวงการ SEO เป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด Google ก็ลงดาบเว็บไซต์ที่ทำลิงค์วิวเกือบทั้งหมด ( คืออาจจะมีบางเว็บรอดไปบ้าง ) โดยการอัพเดทอัลกอริทึ่มให้ตรวจสอบและตบเว็บไซต์ที่ใช้วิธีนี้ให้ร่วงระนาวจากอันดับการค้นหา เพราะมันเป็นการทำลิงค์ด้วยตัวเองแบบส่งต่อพลัง Google ไม่มีนโยบายอยากให้เจ้าของเว็บทำลิงค์เข้าหาเว็บตัวเองมากๆ ที่อยากได้คือให้แต่ละเว็บไซต์มีการให้เครดิตกลับมาเองตามธรรมชาติ ไม่ใช่สร้างลิงค์ย้อนกลับเอง ถึงแม้ว่าทุกวันนี้เราก็จะยังคงทำลิงค์กันเองอยู่ก็ตาม แต่ลิงค์วิวเป็นรูปแบบที่อัลกอริทึ่มตรวจสอบได้ง่ายมาก เพราะทุกลิงค์มันเชื่อมกันเป็นวงจรชัดเจน หากมีลิงค์ใดลิงค์หนึ่งขาดไป การทำก็จะหมดความหมายเพราะมันไม่ได้ส่งต่อพลังลิงค์ถึงกันนั่นเอง คนที่รับทำ SEO ก็ต่างพากันเสาะหาวิธีใหม่ๆ จนในที่สุดและก็เริ่มเข้าสู่ยุคของลิงค์พีระมิด

พีระมิดลิงค์ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน

เมื่อลิงค์วิวทำไม่ได้แล้ว แต่การส่งต่อพลังลิงค์ยังคงทำได้ผลดี ก็เลยเกิดแนวคิดที่ว่า ถ้าเราทำลิงค์ออกมาเป็นชั้นๆในทรงพีระมิดแทนการทำลิงค์วิว ก็อาจจะได้ผล และมันก็เป็นจริงอีกครั้ง แต่อาจไม่ได้แรงเท่าลิงค์วิวในตอนนั้น รูปแบบโครงสร้างลิงค์วิธีนี้จะแบ่งออกเป็นชั้น โดยชั้นแรก จะเป็นการทำลิงค์ย้อนกลับจากโดเมนคุณภาพ ทำน้อยๆ เน้นคุณภาพล้วนๆในแต่ละลิงค์ และจะยิงเข้าเว็บไซต์ทำเงินของเราโดยตรง เพื่อให้มันเป็นไปตามหลักของการสร้าง Backlinks คุณภาพดี แต่ในชั้นถัดมา จะเป็นการสแปมลิงค์ปริมาณมหาศาลเข้าไปยังพวกโดเมนชั้นแรกทั้งหมด โดยแนวคิดก็คล้ายๆกันกับลิงค์วิว คือการส่งต่อค่าพลังของลิงค์ โดยจะไม่มีการโยงจนครบวง แต่เป็นการเน้นปริมาณของลิงค์ที่ยิงเข้ามากกว่า ถ้าเป็นลิงค์วิวจะส่งพลังมาแบบ 1 ต่อ 1 เหมือนเอาท่อมาต่อกัน แต่ถ้าพีระมิดจะเป็นการเอา 10 หรือ 100 มาต่อ 1 ยัดพลังลิงค์เข้าไปจำนวนมากในแต่ละโดเมน

หากวิธีการส่งต่อค่าพลังยังคงสามารถใช้ได้ การทำพีระมิดลิงค์ก็ถือเป็นทางออกของเหล่า SEO ที่ผิดหวังจากการทำลิงค์วิวมา บางคนจะมีการทำเป็น 3-4 ชั้นพีระมิดเลย คือชั้นที่ 3 สแปมเข้าชั้นที่ 2 ส่วนชั้นที่ 4 ก็สแปมลิงค์เข้าชั้นที่ 3 ยิ่งทำชั้นเยอะก็เหมือนยิ่งส่งต่อพลังลิงค์ได้เยอะขึ้น และก็เช่นเดิม การส่งพลัง Backlinks จะส่งผ่านการทำลิงค์ในรูปแบบ URL ตรงๆหรือผ่าน Text Link ก็ได้ เช่น ผลบอลวันนี้ ผลฟุตบอล เกมส์ออนไลน์ ขอแต่ว่าต้องเป็น Dofollow Links เท่านั้น เพื่อให้บอทไต่ผ่านมาได้ แต่จุดบอดคือ วิธีการทำพีระมิดลิงค์แบบหลายๆชั้น จะค่อนข้างยากในการตรวจสอบว่าแต่ละลิงค์ในชั้นที่ 2-3 มีลิงค์ตายไปแล้วบ้างไหม เพราะเราส่งลิงค์เข้ามาจากหลายร้อยหลายพันโดเมนเลย หากชั้น 2-3 มันมีบางลิงค์ที่เว็บล่มหรือปิดตัวไป ไม่ก็อาจจะเป็นการส่งต่อในแบบ Nofollow ซึ่งบอทจะไม่ตามข้อมูลไปยังลิงค์ปลายทาง ชั้นล่างถัดไปที่มีการสแปมลิงค์เข้ามาก็จะไม่ส่งต่อพลังไปถึงชั้นที่ 1 และเว็บทำเงินของเรา กลายเป็นเสียเวลาปล่าว ชั้นที่เรากรองคุณภาพเองและตรวจสอบอยู่เสมอมักจะเป็นชั้นที่ 1 เท่านั้น ส่วนชั้นอื่นมักใช้เครื่องมือช่วยสร้างลิงค์กันซะมากกว่า นอกจากนี้ยังเปลืองทรัพยากรเครื่องเซิฟเวอร์ด้วย

และในที่สุดวิธีนี้ก็แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน Google เองก็ลดค่าความสำคัญของการทำพีระมิดไปเยอะพอสมควรแล้ว แต่จะไม่ค่อยได้แบนสักเท่าไหร่เพราะมันอาจเป็นการแบนสุ่มสี่สุ่มห้าไปโดนเว็บคุณภาพได้เหมือนกัน เลยใช้วิธีลดความสำคัญของเรื่องการส่งต่อพลังของลิงค์แทน หากใครทำลิงค์พีระมิดตอนนี้ก็อาจได้ผลอยู่บ้างแต่ไม่ดีเท่าที่ควร ที่สำคัญคือวิธีนี้มีต้นทุนพอสมควรในขั้นตอนการสแปมลิงค์เข้าเป็นชั้นๆ ก็ต้องลองคำนวนค่าใช้จ่ายให้ดี บางทีเอาไปซื้อโดเมนสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัวแล้วดูแลให้แต่ละโดเมนเป็นเว็บคุณภาพไปเลยดีกว่า ใครที่คิดจะลองทำก็ลองสร้างเว็บใหม่แล้วทำดูได้เช่นกัน แต่ไม่ควรทำไปยังเว็บทำเงินหลักของเราในทันที เอาไปทดสอบในเว็บลองของให้มั่นใจก่อนค่อยลุยน่าจะดีกว่า