6 ข้อบกพร่องที่ทำให้ SEO บนเว็บไซต์ขายของไม่ประสบความสำเร็จ

6 ข้อบกพร่องที่ทำให้ SEO บนเว็บไซต์ขายของไม่ประสบความสำเร็จ

ปัญหาที่คนเปิดเว็บไซต์ขายของประสบกันอยู่เป็นประจำก็คือ การทำ SEO หรือการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อให้กูเกิ้ลแสดงผลในลำดับต้น ๆ แล้วไม่ประสบความสำเร็จ ปัจจัยที่ทำให้การทำ SEO แล้วไม่สำเร็จดั่งใจต้องการนั้น มีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุ เราต้องไม่ลืมว่าการจะทำให้อันดับเว็บไซต์ไปปรากฏบนจอกูเกิ้ลหน้าแรก ๆ ได้นั้นต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง ดังนั้นการทำ SEO ให้ได้ผลดีทั้งยอดขายและชื่อเสียง จึงต้องคำนึงถึงเรื่องต่าง ๆ แบบครบองค์รวม แม้มีข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ล้วนส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ได้ทั้งนั้น และนี่คือสิ่งที่เราต้องพิจารณาดูเมื่อพบว่าการทำ SEO ที่ผ่านมายังไม่ได้ผลตามที่ต้องการ

1.เว็บไซต์มีหน้าภายในเยอะเกินไป
หลายเว็บไซต์ใส่ข้อมูลที่ไม่จำเป็นมากเกินไป หรือบางครั้งข้อมูลสินค้าที่จำหน่ายก็ซ้ำกัน จนทำให้ภายในเว็บไซต์มีจำนวนหน้าที่เยอะเกินไปแบบที่ระบบอัลกอริทึ่มของกูเกิ้ลวิเคราะห์ออกมาว่าเป็นเนื้อหาซ้ำซ้อนหรือคุณภาพต่ำ

2.มีข้อมูลไร้สาระปะปนอยู่
สิ่งที่กูเกิ้ลให้ความสำคัญมาก ๆ ในการเลือกแสดงผลไล่เลียงอันดับเว็บไซต์ ก็คือความน่าเชื่อถือของข้อมูล การนำข้อมูลที่ได้มาจากการคัดลอก หรือเป็นข้อมูลที่อาจถูกกูเกิ้ลตีความว่าไร้ประโยชน์มาใส่ในเว็บไซต์ จึงมีผลต่อการจัดอันดับทั้งสิ้น

3.เว็บไซต์หนักไปจนดาวน์โหลดได้ช้ามาก
บางเว็บไซต์ที่อัดแน่นไปด้วยไฟล์ภาพขนาดใหญ่ จะทำให้การดาวน์โหลดแต่ละครั้งใช้เวลานาน เท่ากับเป็นสร้างประสบการณ์ที่ไม่ประทับใจแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งจะทำให้กูเกิ้ลลดค่าคะแนนการจัดอันดับได้ในที่สุด

4.ไม่รองรับการแสดงผลบนโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน
ปัจจุบันนี้การท่องเว็บไซต์เกิดขึ้นบนสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ดังนั้นเว็บไซต์ใดที่ไม่ได้ออกแบบให้รองรับการแสดงผลบนสมาร์ทโฟน จะเกิดปัญหา คือ ผู้ใช้งานไม่อยากเข้าใช้บริการ จนอาจถูกลดอันดับการแสดงผลจากกูเกิ้ลได้

5.อัดคีย์เวิร์ด (Keyword) จนเกินพอดี
แน่นอนว่าสิ่งแรก ๆ ที่คนทำ SEO มักจะต้องทำ ก็คือ การสร้างบทความให้มีคำสำคัญในการค้นหาหรือ Keyword เยอะ ๆ เพื่อที่ให้ระบบของกูเกิ้ลดันอันดับการค้นหาไปยังหน้าแรก ๆ แต่บางครั้งการใส่ Keyword ที่ถี่เกินไปกลับสร้างผลเสียมากกว่า เพราะถูกระบบอัลกอริทึ่มของกูเกิ้ลอ่านว่าเป็นสแปม จนถูกลดอันดับได้เช่นกัน

6.ทำแบ็คลิงก์ (Backlink) พิสดารผิดธรรมชาติ
การสร้างลิงก์เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนทำ SEO ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ แต่การทำลิงก์ที่ได้ผล คือ ลิงก์ตามรูปแบบมาตรฐาน ไม่ใช่การสร้างลิงก์ที่ไม่เป็นธรรมชาติตามที่ต่าง ๆ เพื่อหวังให้คนกดเข้ามาโดยไม่เต็มใจ แบบนี้จะถูกมองจากระบบว่าทำไม่ถูกต้อง

การทำ SEO ให้ได้ผลดี ต้องใช้ทั้งความใส่ใจในรายละเอียด ความอดทนและการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค หากเว็บไซต์ใดทำได้ การขายของผ่านระบบอินเทอร์เน็ตก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป