7 ข้อดีของการทำ SEO

SEO 7 ข้อดี 4 ข้อเสียของการทำ SEO

ในปัจจุบัน การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ทำการขายสินค้าและบริการทางออนไลน์ (online) กันมากขึ้น ซึ่งสำหรับผู้ที่เป็นมือใหม่ทางการตลาดออนไลน์ อาจมีข้อข้องใจว่าการทำ SEO มีความคุ้มค่าหรือสามารถวัดผลได้จริงหรือไม่?

เราจึงได้รวบรวม 7 ข้อดี และ 4 ข้อเสียของการทำ SEO มาฝากกัน

7 ข้อดีของการทำ SEO

1. ค่าจ้างทำ SEO ถูกกว่าการจ้างทำสื่อโฆษณารูปแบบอื่น ๆ เช่น การทำแบนเนอร์ การจ่ายราคาต่อคลิก หรือ pay per click

2. เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อธุรกิจให้ดูมีความทันสมัย ฉับไว พร้อมตอบข้อสงสัยด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น

3. เป็นการอัพเดตเว็บไซต์ให้เป็นตามหลักสากล เนื่องจากระบบการสืบค้นของ search engine ต้องกำหนดการตั้งโค้ดให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เทียบได้กับการยกเครื่องรถยนต์นั่นเอง

4. เปิดหน้าร้านให้ลูกค้าใหม่ได้รู้จักธุรกิจเรามากขึ้น

5. เป็นการทบทวน (remind) ลูกค้าเก่าและลูกค้าประจำให้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

6. เป็นช่องทางประขาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุด

7. เข้าถึงลูกค้าต่างถิ่นหรือต่างประเทศได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ควรตั้งชื่อ URL และเพิ่มเนื้อหาเป็น ENGLISH เพื่อให้ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก (ซึ่งทั่วโลกมีเปอร์เซ็นต์สูง) สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่าย

SEO 7 ข้อดี 4 ข้อเสียของการทำ SEO

4 ข้อเสียของการทำ SEO

1.สำหรับผู้ที่ไม่เคยทำ SEO ในธุรกิจออนไลน์ การจ้างบริษัทเอกชนทำงานส่วนนี้ รวมทั้งจ้างเขียนบทความประกอบการทำ SEO ถือได้ว่าเป็นต้นทุนที่เพิ่มเติมขึ้น ทำให้อัตราส่วนกำไรต่อชิ้นของสินค้าลดลงได้

2. การที่ไม่มีธุรกิจใดสามารถเข้าถึงตรรกะของระบบสืบค้นใน search engine ได้อย่างแท้จริง ด้วยความเป็นอัตลักษณ์ของอัลกอริทึ่ม (algorithm) จึงทำให้ต้องทำ SEO อย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถหยุดพักได้

3. พร้อมเสียตำแหน่งหรือทำเลดีๆ ในการสืบค้นให้คู่แข่งทางการค้าได้ตลอดเวลา เพราะบริษัทอื่นๆ ก็ล้วนจ้างกูรูด้าน SEO พัฒนาเว็บไซต์ แบบ SEO เช่นเดียวกัน

4. ต้องใช้ระยะเวลาในการทำ SEO จึงจะเห็นผลอาจหลายสัปดาห์หรือเป็นปี ๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นซีซั่น (season) เช่น การท่องเที่ยว บางประเทศนักท่องเที่ยวนิยมไปในบางฤดู เช่น เขตยุโรป จะนิยมมากช่วงฤดูหนาว หรือการโรงแรม จะมีช่วงไฮซีซั่นของการจองอยู่ในบางเทศกาล

จะเห็นได้ว่าการทำ SEO มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต้องวิเคราะห์ต่อยอด ว่ามีความคุ้มค่าต่อการลงทุนในส่วนนี้เพียงใด ทั้งนี้เจ้าของธุรกิจควรศึกษาดัชนีชี้วัดความสำเร็จที่เหมาะสมสำหรับการทำ SEO ด้วย เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกบริษัทรับจ้างทำ SEO หรือเลือกใช้ช่องทางอื่น ๆ ในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจได้อย่างเหมาะสมในระยะต่อไป

การใช้ SEO และโซเชียลมีเดียเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์

การใช้ SEO และโซเชียลมีเดียเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์

เหตุผลของการทำ SEO คือการเพิ่มจำนวนผู้ชมเว็บไซต์เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการเข้าถึงคนจำนวนมากซึ่งมีโอกาสกลายมาเป็นลูกค้าเป้าหมายในอนาคต ทุกเว็บไซต์ที่ขายทางออนไลน์จึงพยายามเพิ่มจำนวนผู้ชม วิธีหนึ่งคือการใช้โซเชียลมีเดียช่วยทำตลาดให้เว็บไซต์มีผู้ติดตามมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Line, Twitter, Pinterest และอื่น ๆ โดยเทคนิค SEO ที่ใช้ในเว็บไซต์สามารถโอนไปยังโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย สิ่งเดียวที่แตกต่างคือโครงสร้างของเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียซึ่งจะต้องเหมาะสมกับรูปแบบด้วย

การทำเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊ก มีประโยชน์

การทำเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊ก แนะนำให้โพสต์บทความเป็นประจำ ถ้าคุณไม่สามารถโพสต์บทความบ่อย ๆ อย่างน้อยควรเขียนบทความที่มีคุณภาพสูงมากและน่าสนใจ วิธีนี้จะดึงดูดคนเข้าใช้บริการได้มากขึ้น ทั้งชื่อเรื่องและเนื้อหาของบทความต้องใส่คีย์เวิร์ดที่คัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน เทคนิคการทำ SEO จะเชื่อมโยงหน้าเว็บไซต์กับโซเชียลมีเดียด้วยการใช้คีย์เวิร์ดเดียวกัน เครื่องมือค้นหาจะโปรโมตโพสต์โดยอิงจากคีย์เวิร์ด ทำให้บทความกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว อยากให้ผู้ชมค้นหาและพบโพสต์ของเว็บอย่างรวดเร็ว ควรเลือกคำหลักที่เหมาะสมที่สุด แทรกคีย์เวิร์ดในหน้าอธิบายผลิตภัณฑ์ด้วย หากคุณขาดแรงบันดาลใจ ไม่แน่ใจว่าควรเลือกคีย์เวิร์ดแบบใด อาจต้องการลองใช้บริการด้านการตลาดและจ้างนักเขียนมืออาชีพในการช่วยทำ SEO และการตลาดออนไลน์ โดยจับความคิดของผู้ประกอบการมาเขียนเรื่องราวต่างๆ เพื่อทำการโปรโมตเว็บผ่านสื่อสังคมออนไลน์

การใช้ SEO และโซเชียลมีเดียเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์

ก่อนเขียนบทความต้องศึกษาลูกค้าเป้าหมายว่ามีพฤติกรรมการจับจ่ายและความพึงพอใจอย่างไร เนื้อหาที่สนุกสนานจะเป็นที่นิยมของคนทั่วไป ส่วนคนที่มีการศึกษามีระดับสูงสนใจคอนเทนต์ที่ให้ความคิดและมุมมองใหม่ ๆ มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์และสอดคล้องกับความต้องการ อาจเสริมด้วยไฟล์ภาพสวย ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ หรือโพสต์วิดีโอสั้น ๆ อธิบายคุณประโยชน์หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ

รูปภาพเป็นส่วนหนึ่งของเทคนิคการทำ SEO ด้วย การโพสต์บทความบนสื่อสังคมออนไลน์โดยที่ไม่มีรูปภาพจะไม่ค่อยน่าสนใจและประสบความสำเร็จน้อยกว่าโพสต์ที่มีรูปภาพ เพราะรูปภาพดึงดูดความสนใจของผู้คน เลือกรูปภาพอย่างระมัดระวัง ควรเกี่ยวข้องโดยตรงกับข้อความในโพสต์ที่ลงบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังมองหาคนเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้น บางคนอาจคลิกลิงก์หลังจากเห็นภาพโดยไม่ต้องดูข้อความที่ได้โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์แม้แต่น้อย แสดงถึงอิทธิพลของรูปภาพต่อการตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ แต่ถ้าเลือกภาพสวย ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับกับโพสต์หรือเว็บไซต์เลยเพื่อหวังดึงคนเข้ามาเยี่ยมเว็บจำนวน ผลลัพธ์ที่ได้จะมีแต่ด้านลบ เพราะทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเข้ามาแล้วไม่พบสิ่งที่ต้องการ จึงไม่ค้นหาต่อและอาจไม่กลับมาใช้บริการซ้ำอีก

อย่าลืมว่าโปรไฟล์โซเชียลมีเดียและโพสต์บทความของคุณจะปรากฏบนในผลการค้นหาของ Google จึงเป็นเหตุผลที่ควรผลักดันแบรนด์ให้สร้างความโดดเด่นบนโพสต์โซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ให้คนเห็นและรู้จักมากขึ้นอีก